บทที่ 5 เด็กมีปัญหา

สินธรมาส่งภัทรทิราที่บ้าน ระหว่างทางทั้งสองไม่ได้คุยอะไรกันอีกเลย เพราะในหัวของภัทรทิรามีแต่เรื่องของเผ่าเพชร สินธร  ก็เช่นกัน ในหัวของเขาตอนนี้มันมีแต่ความน้อยใจ ภัทรทิราไม่เคยเห็นเขาอยู่ในสายตา เพื่อนอีกสองคนก็กำลังจะมีอนาคตที่สดใส ในขณะที่เขายังแก้ ร. กับศูนย์ไม่ผ่าน โชคดีที่สมัยนี้ไม่มีให้เรียนซ้ำชั้น ไม่อย่างนั้น เขาคงต้องเรียนซ้ำจนหัวผุแน่ ๆ ยิ่งคิดยิ่งโมโห มือของเด็กหนุ่มล้วงกระเป๋ากางเกง ก่อนจะคว้าบุหรี่ที่เหลือมาอัดควันลงปอด    อีกพักใหญ่ ๆ ก่อนจะนำส่วนที่เหลือไปวางไว้ในจุดที่ปลอดภัย เพราะการนำมันเข้าไปในบ้านไม่ใช่เรื่องดี ถ้าพ่อจับได้ว่าเขาสูบบุหรี่ มีหวังโดนหวดจนก้นลายแน่นอน

มอเตอร์ไซค์คันงามขับเข้ามาจอดหน้าบ้านปูนสองชั้นขนาดใหญ่ ตาคมเข้มมองเข้าไปในบ้าน ก่อนจะถอนหายใจ เวลานี้คนในบ้านคงกำลังกินข้าวเย็นอย่างอร่อย ปกติเขาจะไม่กลับบ้านเวลานี้ แต่วันนี้เพราะมัวเสียเวลากับยายภัทรทิราหน้ามึน จึงทำให้ต้องเข้าบ้านเวลานี้

“กลับซะเย็นเลยนะครับคุณหมอก” เข้ม เด็กหนุ่มลูกคนงาน      วิ่งออกมารับ พร้อมกับมาจูงรถของเขาไปเก็บเหมือนทุกวัน

“พ่ออยู่ไหม” สินธรถาม เมื่อชะโงกหน้าเข้าไปในบ้าน

“อยู่ครับ กลิ่นแรงมากครับคุณหมอก” เข้มบอก เมื่อเด็กหนุ่มเอ่ยปากถาม ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเข้มบ่นเรื่องอะไร เด็กหนุ่มรุ่นพี่ล้วงกระเป๋ากางเกงขาสั้น ก่อนจะคว้าอะไรบางอย่างออกมาส่งให้เขา

“เคี้ยวนี่ก่อนครับ แล้วค่อยเข้าบ้าน”

ใบฝรั่งกำใหญ่ถูกยัดใส่มือ สินธรไม่รอช้ารีบม้วนมันยัดเข้าปาก แล้วเคี้ยวตุ้ย ๆ อย่างง่ายดาย เข้มอมยิ้ม เมื่อมองเจ้านายหนุ่ม ทีเวลานี้ทำเป็นกลัว

“มีการบ้านไหมครับ” เข้มถามด้วยความห่วงใย เพราะถ้ามี    เขาจะได้เอาไปทำให้เหมือนเช่นทุกวัน

“ไม่มี” สินธรตอบกลับรัวเร็ว ก่อนจะกลืนใบฝรั่งลงคอ

“จะปิดเทอมแล้ว ครูเลยไม่ให้การบ้าน มีไรกินมั่ง” สินธรถาม เมื่อเดินตามเข้มเข้ามาในโรงเก็บรถ

“ที่บ้านใหญ่มีกุ้งชุบแป้งทอด แกงเลียงกุ้งสด แล้วก็...”

“ที่บ้านมึงน่ะ แม่มึงทำอะไรกิน” คำพูดของเข้มค้างไว้แค่นั้น    เด็กหนุ่มยิ้มก่อนจะหันมาตอบ

“ผัดหัวปลีกับน้ำพริกตาแดงครับ แม่ต้มไข่อีก3ฟอง” บอกพร้อมกับลอบมองเจ้านายหนุ่ม

“เหลือไข่ต้มไว้บ้างป้ะ”

“แม่ให้เหลือไว้สองฟองครับ ผมกินแค่ฟองเดียว”

“วันหลังมึงกินสองฟองก็ได้ เหลือให้กูฟองเดียวพอ” สินธรตอบ ก่อนจะเดินนำเข้มไปยังบ้านพักคนงาน เข้มมองตามหลังเจ้านายด้วยสายตารักใคร่ เป็นแบบนี้อีกแล้ว... คุณหมอกมักจะตามไปกินข้าว      ที่บ้านเขาเสมอ จนแม่เขาต้องหุงข้าวเผื่อ และเก็บกับข้าวไว้รอทุกวัน บางวันมีของดี ๆ เข้มก็ต้องหิ้วท้องรอ บางครั้งก็ต้องรอจนแน่ใจว่า    คุณหมอกไม่มากินด้วย เข้มถึงจะได้กิน เพราะกับข้าวดี ๆ มักจะมีน้อยต้องรอกินพร้อมกัน

เป็นแบบนี้มานานแค่ไหนแล้วนะ... คงตั้งแต่ที่นายหญิงคนเก่าจากไป แล้วมีนายหญิงคนใหม่เข้ามาพร้อมกับลูกของเธอ คุณหมอกเลยกลายเป็นหมาหัวเน่า หรือบางทีคุณหมอกอาจจะเข้าใจอะไรผิด    ไปเอง เลยพยายามทำตัวประชดประชัน จนบางครั้งก็ถูกนายใหญ่   หวดก้นเอาบ้าง เข้มส่ายหัวให้กับความดื้อรั้นของเจ้านาย ก่อนจะยิ้ม เมื่อเห็นนายน้อยวิ่งเข้าไปกอดประจบแม่ของเขา ปีนี้นายน้อยอายุสิบห้า แต่เวลาอยู่กับแม่เขานายน้อยกลับทำตัวน่ารัก เหมือนเด็ก     สักแปดขวบ สงสัยวันนี้คงได้ไข่เจียวฟู ๆ มาเพิ่มในสำรับอีกจาน     เมื่อเขาเห็นนายน้อยหอมแก้มเหี่ยว ๆ ของแม่เขาฟอดใหญ่

สินธรเดินเอามือลูบท้องกลับบ้าน วันนี้เขาฟาดข้าวไปสองจานใหญ่ ๆ น้ำพริกตาแดงฝีมือป้านิ่ม อร่อยไม่มีใครเหมือน โชคดีที่เขากินก๋วยเตี๋ยวมาแค่ชามเดียว ไม่อย่างนั้นคงกินน้ำพริกได้น้อย ขากลับ   เข้มไม่ได้เดินมาส่งเพราะต้องล้างจาน ในขณะที่เขาเดินตัวกลม      กลับบ้านอย่างสบายใจ

ทันทีที่ก้าวขาเข้าบ้าน ของบางอย่างก็ปะทะเข้าที่หน้าอย่างแรง ร่างสูงสะดุ้งเฮือก ก่อนจะมองตามไปยังสิ่งที่ร่วงอยู่บนพื้น ซองบุหรี่ ใบหน้าหล่อเหลาเงยขึ้น มองคนตรงหน้า ก่อนที่ตาคมเข้มจะเหลือบมองไปข้างหลัง แล้วเข้าใจเรื่องราวบางอย่างทันที เมื่อเห็นแววตา     เย้ยหยันของสาวสวยที่ยืนอยู่ข้างหลังพ่อของเขา

“นี่อะไร!” น่านนทีถามเสียงดัง พร้อมกับชี้นิ้วไปที่ซองบุหรี่ สินธรใจหายวูบ ก่อนจะเข้าใจเรื่องราวทุกอย่าง ความลับไม่มีในโลกข้อนี้  เขาเข้าใจ แต่ความลับของเขากลับถูกเปิดเผยด้วยมือของคนที่เขาเกลียดชัง เรื่องนี้แหละที่เขายอมไม่ได้ ตาคมเข้มมองหน้าเด็กสาวอย่างเอาเรื่อง ก่อนจะหันมาตอบคำถาม

“บุหรี่!”

“บุหรี่เหรอ” น่านนทีง้างมือขึ้นจนสุดแขน เมื่อได้ยินคำตอบของลูกชาย

“อย่าค่ะคุณพ่อ!” รตีกอดแขนของท่านเอาไว้ แม้น้ำเสียงจะเอ่ยขอร้อง แต่สายตาของเด็กสาวกลับตรงกันข้าม สินธรกลอกตา เมื่อ   นางละครเดินออกจากบ้านมาอีกคน เห็นทีเรื่องที่พ่อจับได้ว่าเขาสูบบุหรี่ คงมีคนทำงานกันเป็นทีมแน่นอน เอาไงก็เอา งานนี้เขาก็ดับเครื่องชนเหมือนกัน

“ส่งให้ไปเรียน ก็ทำตัวเกเร เป็นนักเลงอันธพาลไปทั่ว ตัวอย่าง  ดี ๆ ทำไมไม่ดู ไอ้เผ่า ไอ้วิน มันไม่เคยทำให้พ่อมันปวดหัวเลยสักครั้ง”

น่านนทีเริ่มอบรมลูก สินธรถอนหายใจ เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรก  พ่อเขาบ่นเป็นประจำอยู่แล้ว

“ไอ้เผ่ากับไอ้วิน มันไม่มีใครคอยจ้องเล่นงานไงพ่อ มันเลยรอด”

สินธรเถียง ก่อนจะมองหน้าแม่ลูกมหาภัยที่ยืนอยู่ข้างหลัง

“มึงมันก็ดีแต่โทษคนอื่น เคยโทษตัวเองบ้างไหม”

“เออ! ผมผิดเองแหละ ผมติดบุหรี่แล้วไงล่ะ ใคร ๆ เขาก็สูบกันทั้งนั้น”

“เถียงเหรอ เถียงใช่ไหม” น่านนทีเงื้อมือ ทำท่าจะฟาดลงมา    อีกครั้ง แต่ครั้งนี้มารตีกลับห้ามไว้ พร้อมกับคำพูดที่เป็นเหมือนชนวนระเบิด

“อย่าค่ะคุณ อย่าตีลูกค่ะ”

ทันทีที่นางละครเอ่ยคำที่สินธรไม่อยากได้ยินออกมา อารมณ์ที่เด็กหนุ่มกักเก็บเอาไว้ก็ระเบิดขึ้น ทั้ง ๆ ที่รู้ว่ากำลังถูกล่อลวงให้ติด   กับดัก แต่นาทีนี้สติเขาขาดจนหมดสิ้น

“มึงไม่ใช่แม่กู!”

ผัวะ! ผัวะ!

กำปั้นลืมแบฟาดลงมาบนใบหน้าหล่อเหลาของเด็กหนุ่ม      สองทีซ้อน ดวงตาคมเข้มทันได้เห็นความสะใจ บนหน้าของสอง       แม่ลูกนั่น ก่อนที่ร่างเด็กหนุ่มจะเซถลาจนเกือบล้ม แต่ก็ได้แขน

ของใครบางคนมารับไว้ พร้อมกับเสียงกรีดร้องของคนที่มาใหม่

“ว้าย! คุณหมอก!” ป้านิ่มร้องอย่างตกใจ เมื่อมาทันเห็นน่านนทีตบหน้าลูกเต็มแรง

“เข้ม! เอาคุณหมอกออกไป!” ป้านิ่มสั่งลูกชาย ก่อนจะมายืนขวางหน้า ถึงจะเป็นแค่คนงาน แต่เดิมเธอก็เป็นพี่เลี้ยงของแม่         คุณหมอก น่านนทีจึงเกรงใจเธอ

“ปล่อย! ปล่อยกูไอ้เข้ม พ่ออยากตบก็ให้เขาตบให้พอใจ” สินธรยังคงโวยวายไม่เลิก ก่อนจะถูกเข้มที่แข็งแรงกว่าลากออกไป

“เกิดอะไรขึ้นคะ” ป้านิ่มร้องถาม

“เรื่องของคนในครอบครัว คนนอกอย่ามายุ่ง!” มารตีตวาดกลับมา ยังเสียดายไม่หายที่สามีเธอทำมันยังน้อยไป ไอ้เด็กนั่นน่าจะโดนมากกว่านี้

“คุณมาร์พารตีขึ้นบ้านก่อน ผมมีเรื่องจะคุยกับพี่นิ่ม”

น่านนทีหันมาดุภรรยา ก่อนจะเดินออกมาหน้าบ้าน ตายังคงมองไปที่เด็กหนุ่มสองคนที่ลากกันออกไปนอกบ้านอย่างทุลักทุเล เพราะอีกคนเอาแต่ดิ้นต่อสู้ไม่หยุด

“ไอ้หมอกสูบบุหรี่” น่านนทีบอกเหตุผลให้ป้านิ่มฟัง

“คุณน่านก็สูบ!”

“พี่นิ่ม!” น่านนทีตวาด เมื่อโดนสวนมาแบบนั้น

“คุณหมอกโตแล้วนะคะ ไม่ใช่เด็ก ๆ”

“แต่มันดื้อรัน”

“คุณหมอกอธิบายเหตุผลต่างหาก แล้วทำไมเพิ่งรู้คะว่า        คุณหมอกสูบบุหรี่” ป้านิ่มย้อนถาม

“รตีกับมารตีเพิ่งมาบอก มันน่านัก” ยิ่งพูดน่านนทีก็ยิ่งโมโห    เขาน่าจะรู้เรื่องให้เร็วกว่านี้ จะได้จัดการทัน

“เหรอคะ ถ้าสองแม่ลูกนั่นไม่มาบอก คุณน่านก็ไม่รู้เหรอคะ”

“ใช่น่ะสิ ดีนะที่สองคนนั่นเป็นหูเป็นตาให้ผม”

“ดีค่ะ เป็นหูเป็นตาแต่เรื่องคุณหมอก พี่ดีใจด้วยค่ะที่คุณน่าน     มีเมียดี”

“พี่นิ่ม...”

“คุณหมอกสูบบุหรี่มาตั้งแต่ขึ้น ม.1 นี่จะจบ ม.3 แล้ว คุณน่านเพิ่งรู้”

“เลว! เลวจริง ๆ พี่เห็นไหมว่ามันเลวแค่ไหน” น่านนทีเอ่ยอย่างโมโห และยิ่งโมโหหนักเมื่อได้ทราบข้อมูลใหม่ที่แม่บ้านบอก

“ถ้าคุณน่านใส่ใจลูกกว่านี้ ลูกคงไม่เลวขนาดนี้หรอกค่ะ กลับไปถามตัวเองดูนะคะ ว่าทุกวันนี้คุณน่านใส่ใจลูกแค่ไหน ขอตัวนะคะ”

ป้านิ่มพูดพร้อมกับเดินจากไป น่านนทีสะอึก เมื่อถูกแม่บ้านย้อนมาแบบนี้ นี่เขากำลังแก้ปัญหาที่ปลายเหตุอยู่ใช่ไหม

บทก่อนหน้า
บทถัดไป